ศรีสะเกษ อากาศหนาวเย็นพลิกชีวิต สองตายาย อดีตเคยเร่ขายดวงตา หาเงินใช้หนี้ ปัจจุบันขายขนมหูช้างโบราณ กลิ่นหอมอบอวล ชวนชิม สร้างได้เดือนละ เกือบ 100,000 บาท
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ( เกาะห้วยน้ำคำ ) อ.เมืองศรีสะเกษ จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ขนมหูช้าง ซึ่งเป็นขนมโบราณ ขายดีเป็นอย่างมาก ซึ่งขนมหูช้าง ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จะแตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากข้าว ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จะมีรสชาติ แตกต่างจากพื้นที่อื่น เมื่อทำการปิ้งออกมา จะมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ซึ่งนอกจากประชาชนส่วนใหญ่ จะมายืนต่อคิวซื้อเนื่องจากความหอมและรสชาติหวานอันอร่อย ยังได้อาศัยไฟสร้างความอบอุ่นกับให้กับตนเอง อีกทั้ง ประชาชนบางส่วนก็ได้ซื้อ ขนมหูช้าง แบบเป็นแผ่นสำเร็จรูป เพื่อนำไปปิ้งกินกับคนในครอบครัว ขณะผิงไฟ สร้างความอบอุ่นในครอบครัวอีกด้วย
นายบุญเชี่ยว ศรีสวัสดิ์ อายุ 76 ปี พ่อค้า ผู้ขายขนมหูช้าง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ตนกับภรรยา ขายขนมหูช้าง มานานกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด 19 ทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างหนัก ขายขนมก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน บางวันต้องอดมื้อกินมื้อ ประทังชีวิต จนกระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิต ภรรยา ต้องได้ประกาศขายดวงตา เพื่อหาใช้หนี้และประทังชีวิต แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เศรษฐกิจ เริ่มกลับมาดีขึ้น ขนมหูช้างของตนก็ได้เริ่มกลับมาขายดีขึ้น โดยตนจะตระเวนขายตามงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน OTOP หรืองานเทศกาลต่างๆในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
นายบุญเชี่ยว ศรีสวัสดิ์ อายุ 76 ปี พ่อค้า ผู้ขายขนมหูช้าง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวต่อไปว่า สำหรับขนมหูช้างโบราณของตนนั้น จะขายดีเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาว เนื่องจากจะมีประชาชน ที่มารอซื้อขนมหูช้าง ได้ผิงไฟคลายหนาว และซื้อกลับบ้าน เพื่อไปผิงไฟปิ้งรับประทานกับครอบครัว โดยในแต่ละวัน ตนสามารถขายขนมหูช้าง ได้กำไรวันละประมาณ 3,000 – 4,000 บาท เฉลี่ยรายได้ 1 เดือน โดยเฉพาะในช่วงอากาศหนาวนี้จะตกถึง เดือนละประมาณ เกือบ 100,000 บาท ซึ่งถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งสำหรับตนและภรรยา ///////////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
